เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา Deloitte ประกาศว่าจะใช้เทคโนโลยี KILT Protocol บนบล็อกเชน Polkadot ให้สามารถออกข้อมูลประจำตัวดิจิทัลที่สามารถใช้ซ้ำได้ให้กับลูกค้าหรือพูดง่ายๆก็คือเปลี่ยนข้อมูลรับรองกับยืนยันตนให้อยู่บนโลกบล็อกเชนไปเลย การปรับปรุงครั้งนี้ตั้งเป้าพัฒนากระบวนการ KYC (Know Your Customer) และ KYB (Know Your Business) ให้ดียิ้งขึ้น

Deloitte บอกว่าประบวนการ KYC และ KYB ในปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพที่ดี พวกมันถูกออกบนกระดาษ และการขอยืนยันตนนั้นจะต้องใช้ข้อมูลจากหลายแห่งเพื่อยืนยันคนแค่คนเดียว ส่วนมากมักทำให้เกิดงานท่ีไม่จำเป็น

นอกจากนี้แล้วการยืนยันตนในปัจจุบันยังเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลหลายแห่ง ทำให้ข้อมูลข้องลูกค้ามีความเสี่ยง ซึ่งหากลองดูๆกันในชีวิตประจำวันมันจะดีกว่ามากหากเก็บข้อมูลสำคัญของตนไว้ที่เดียว แล้วนำกระเป๋าดิจิทัลนี้ไปยืนยันตนในที่ต่างๆได้เลยโดยไม่ต้องแชร์ข้อมูล

การยืนยันตนแบบใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าเก็บข้อมูลไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เดียวเลยได้และจะนำไปใช้ได้กับหลายกรณีเช่น การนำไปใช้กับธนาคาร, นำไปใช้บน DeFi, นำไปยืนยันอายุบนโลกอีคอมเมิร์ช, นำไปขอทุนธุรกิจ, และอีกมาก

“ข้อมูลรับรองนี้จะได้รับการเซ็นชื่อแบบดิจิทัลโดย Deloitte ซึ่งทางบริษัทสามารถถอนข้อมูลของลูกค้าออกได้โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนหากลูกค้าไม่ทำตามเงื่อนไขหลังออกข้อมูลรับรองนี้แล้ว” Deloitte กล่าว

แม้จะดูเป็นเรื่องใหม่ Deloitte ยืนยันว่าคนที่ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับบล็อกเชนเลย

คอนเทนต์เกี่ยวข้อง: 10 ข้อดี ข้อเสีย Cryptocurrency สกุลเงินดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนโลก

Deloitte เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กำลังเน้นไปทางบล็อกเชนมาก มีรายงานวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาระบุว่าบริษัทนี้เปิดรับตำแหน่งเกี่ยวกับบล็อกเชนมากกว่า 300 ตำแหน่ง ในขณะที่บริษัทบัญชีอื่นๆในบิ๊ก 4 นั้นไม่เปิดรับตำแหน่งพวกนี้เลย