ในช่วงปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า NFT ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไปอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการศิลปะและเกม จากการเข้ามาพลิกชีวิตและสร้างความหวังให้กับศิลปินและพัฒนาหน้าใหม่โดยเฉพาะศิลปินแนวดิจิทัลอาร์ตจำนวนนับไม่ถ้วน ถ้าคุณคือหนึ่งในคนที่ต้องการก้าวเข้ามาทำความรู้จักวงการนี้ รวมถึงอยากนำชิ้นงานของตัวเองมาลงขายบน ตลาด NFT ต่างๆ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน วันนี้เราคัดเลือก 25 ตลาด NFT สุดปัง ซื้อง่าย ขายคล่อง พร้อมสรุปสไตล์งานที่เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์มรวมเอาไว้ในคุณในที่เดียวเรียบร้อยแล้ว
1. ตลาด NFT : OpenSea

มาเริ่มกันที่ OpenSea หรือ ตลาด NFT ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลกถึง 95% ซึ่งเป็นตลาดขายงานศิลปะดิจิทัลอันดับแรกๆ ที่ใครหลายคนรู้จักเป็นอย่างแน่นอน จากการที่มันทั้งสะดวก ใช้งานง่าย และยังเป็นศูนย์รวมของ NFT ทุกรูปแบบจนสามารถดึงผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป นักสะสม นักลงทุน เกมเมอร์ ไปจนถึงศิลปินดาราและ Celabrity เข้ามาใช้บริการได้อย่างแพร่หลาย
จุดเด่นของ OpenSea จึงอยู่ที่จำนวนผู้ซื้อในตลาดและปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่มีผลงานมากมายขายอยู่ในตลาด ถ้าคุณเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงขายผลงานมาก่อนโอกาสที่จะถูกค้นพบท่ามกลางผลงาน NFT จำนวนมากมายมหาศาลก็มีความยากยิ่งขึ้นเช่นกันเมื่อเทียบกับตลาด ที่มีขนาดเล็กกว่า
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum, Solana, Polygon, BNB, Arbitrum, Avalanche, Klaytn, Optimism
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord
2. ตลาด NFT : MagicEden

Magic Eden ตลาด NFT ชื่อดังซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดบนเชน Solana ซึ่งเพิ่งระดมทุนได้เงินไปกว่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐพร้อมประกาศท้าทาย Opensea ด้วยการเตรียมก้าวเข้ามาแข่งบน Ethereum โดย Magic Eden นั้นมาพร้อมกับจุดเด่นอย่างการเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่เน้นไปที่การมีส่วนร่วมและตอบโต้บนโลกออนไลน์อย่างเรียลไทม์ระหว่างศิลปินและนักสะสม นอกจากนี้ยังมีค่า Gas ที่ถูกมาก เพียงแค่ 2% เท่านั้นอีกด้วย
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Solana, Polygon
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord
3. ตลาด NFT : Binance NFT

Binance NFT คือตลาดซื้อขาย NFT จาก Binance คริปโตเอ็กเชนต์อันดับหนึ่งของโลก ที่มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การแลกเปลี่ยน NFT ที่รวดเร็ว เสถียร สภาพคล่องสูง และมีค่า Gas ที่ต่ำ ด้วยโครงสร้างบล็อกเชน BSC เพื่อเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อและเครือข่ายระหว่างศิลปินและนักสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลจากทั่วโลกเอาไว้อย่างสะดวกสบายที่สุด
ภายในแพลตฟอร์มแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Trading Market ที่เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้ามาสร้างคอลเลกชันและ Mint NFT เพื่อลงขายได้ โดยผู้ใช้ต้องสร้างคอลเลกชันก่อนจึงจะสามารถเริ่มสร้าง NFT ได้ และอีกหมวดสำหรับศิลปินที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่แล้วอย่าง Premium Event ที่เปิดให้ศิลปินจัดแสดงและเปิดให้ประมูลผลงานดิจิทัลได้
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum, BNB
ช่องทางการติดตาม: Website | Instagram | Telegram | Twitter
4. ตลาด NFT : SuperRare

SuperRare คือ Digital Art Marketplace ที่เปิดให้ศิลปินและนักสะสมเข้ามาซื้อขายภาพ NFT หรือ งานศิลปะในรูปแบบ Non-Fungible Token ภายใต้คอนเซ็ป Art Gallery ชั้นสูง ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าการนำเสนอผลงานของคนดัง โดยการจะเข้ามาขายผลงานใน SuperRare ได้นั้นศิลปินต้องส่งผลงานเข้าไปให้ทางแพลตฟอร์มพิจารณาเท่านั้น และจากสถิติของการสมัครแล้ว มีศิลปินเพียง 1% จากทั้งหมดเท่านั้น ที่ได้รับการคัดเลือกให้ลงขายผลงานใน SuperRare
อีกหนึ่งจุดเด่นของ SuperRare ก็คือระบบ $RARE โทเคน หรือ Curation Token ที่เปิดให้ผู้ถือโทเคนคริปโตมีสิทธิ์ในการออกเสียงบน SuperRare Spaces ในฐานะ ‘Curator’ เพื่อ Curate ผลงานในโปรเจคและคอลเลคชั่นใหม่ รวมไปถึงออกแบบและจัดการ Marketplace เพื่อทำการโปรโมทงานศิลปะของศิลปินที่คุณอยากนำเสนอในมุมมองใหมๆ
ประเภท: ตลาดศิลปินระดับโลก
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord
อ่านเพิ่มเติม: SuperRare แกลลอรี่แห่งโลก NFT เพื่อนักสะสมศิลปะ
5. ตลาด NFT : Foundation

Foundation เป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ตั้งอยู่บน Etheruem Blockchian ซึ่งเป็นอดีตหนึ่งใน Marketplace ที่ลงขายงานยากสุดๆ ด้วยคอนเซ็ป “ศิลปินเชิญศิลปิน” หรือการที่ศิลปินซึ่งต้องการขายชิ้นงานบน Foundation นั้นจำเป็นจะต้องได้รับ Invitation จากศิลปินด้วยกันที่เคยขายงานบน Foundation มาก่อน
แต่ปัจจุบันโอกาสมาถึงแล้วเพราะ ทาง Foundation เขาได้เปลี่ยนนโยบายด้วยการยกเลิกกติกาการ Invite ศิลปิน และเปิดตลาดออกสู่ Public เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจุดเด่นของ Foundation ในวันนี้จึงเป็นการขยายโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาลงขายผลงานของตัวเองในแพลตฟอร์มที่พรีเมียมสุดๆ นี้ได้อย่างอิสระนั่นเอง
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram
อ่านเพิ่มเติม: “Foundation” ตลาดซื้อขาย NFT เข้าใจง่ายๆใน 5 นาที
6. ตลาด NFT : LooksRare

LooksRare ตลาด NFT หน้าใหม่ในปี 2022 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนเคยทำยอดขายแซง Opensea มาแล้ว ด้วยคอนเซ็ปที่แตกต่างอย่างการ Buy & Sell NFTs และ Get Rewards หรือการที่ผู้ใช้จะได้รับโทเคน LOOKS เป็นการตอบแทนทุกครั้งที่ทำการซื้อหรือขาย NFT ผ่าน LooksRare นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นใหม่อย่าง List and Earn ที่เพียงแค่ผู้ใช้ลงขาย NFT ที่ตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดก็สามารถรับ LOOKS ไปได้เช่นกัน (เช็คเงื่อนไขได้ที่ https://docs.looksrare.org/about/rewards/listing-rewards) โดยผู้ใช้ยังสามารถนำ LOOKS ไป Stake เพื่อเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมในการลงขายผลงานยังต่ำอีกด้วย เพราะคิดเพียง 2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Opensea ที่คิด 2.5% โดยสาเหตุที่รูปแบบการทำงานของ LooksRare เป็นเช่นนี้ก็เพราะความตั้งใจของทางแพลตฟอร์มที่จะให้ความสำคัญผู้ใช้งานและศิลปินที่ช่วยทำให้ตลาดสามารถเติบโตได้ มากกว่าการบริหารงานเพื่อซัพพอร์ตนักลงทุนและการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มนั่นเอง
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
เหมาะกับใคร: ##
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord
7. ตลาด NFT : Rarible

Rarible คือ ตลาดซื้อขาย NFT ที่โดดเด่นในเรื่องของระบบที่เป็นมิตรกับมือใหม่ ใช้งานง่ายและปลอดภัย ทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำธุรกรรมได้อย่างสบายใจโดยไม่จำเป็นต้องเข้าใจการโค้ดดิ้งหรือรายละเอียดต่างๆ ที่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างการ “Lazy minting” ที่ทำให้ศิลปินสามารถลงขายผลงานดิจิทัลได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนมาจ่ายค่าธรรมเนียม เพื่อ Mint ผลงานลงบนเว็บไซต์ก่อน แต่การ Mint จะเกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้นแทน โดยผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการ Mint แทนผู้ขาย ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ที่อาจจะไม่พร้อมสำหรับการลงทุนมากมายสามารถเข้ามาเริ่มต้นขาย NFT ได้
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum, Tezos, Immutable X, Polygon
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord
8. ตลาด NFT : Nifty Gateway

Nifty Gateway แพลตฟอร์มเน้นความ Exclusive ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยสนับสนุนให้ศิลปินดิจิทัลรุ่นเยาว์สามารถสร้างเครือข่ายและเชื่อมต่อกับช่องทางในการซื้อขายชิ้นงานได้มากยิ่งขึ้น โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การสร้างคอลเลกชันหรืองาน NFT ชิ้นพิเศษร่วมกับศิลปินและแบรนด์ต่างๆ อยู่เสมอ จึงมักจะมีชิ้นงานสุด Limited ที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากตลาดรองอื่นๆ ได้วางขาย นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายจับจ่ายได้สะดวกสุดๆ เพราะสามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายเงินสกุล Flat ได้ทันทีอีกด้วย
โดยแม้กระทั่งศิลปินดิจิทัลระดับตำนานซึ่งเคยเป็นเจ้าของผลงาน NFT ที่ขายได้แพงที่สุดในโลกอย่าง Beeple ก็ยังเคยขายชิ้นงานผ่าน Nifty Gateway เช่นกัน
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord
9. ตลาด NFT : MakersPlace

MakersPlace เป็นตลาด NFT แบบ Web-based ที่ใช้งานง่ายผ่านทั้งเว็บไซต์และมือถือ โดดเด่นในเรื่องของการเป็นสถานที่รวบรวมสินทรัพย์ดิจิทัลและงานศิลปะสุดแรร์จากศิลปินระดับโลกที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยระบบการคัดเลือกศิลปินซึ่งจะต้องทำการส่งตัวอย่างผลงานไปให้ทางแพลตฟอร์มพิจารณาก่อนเพื่อเป็นการการันตีว่าผลงานที่อยู่บนแพลตฟอร์มนั้นถูกคัดเลือกมาแล้วว่าพิเศษสุดๆ โดยงานบางส่วนใน MakersPlace ยังมาพร้อมกับชิ้นงานที่ถูกผลิตขึ้นจริงในโลก Physical ซึ่งผู้สะสมจะได้รับไปพร้อมๆ กับตัวชิ้นงาน NFT อีกด้วย
จุดเด่นอีกอย่างของ MakersPlace ก็คือ User interface ที่ใช้งานง่ายสบายตา โดยศิลปินสามารถกรอกรายละเอียด แรงบันดาลใจ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชิ้นงานได้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ซื้อสามารถอ่านเพื่อพิจารณาทั้งคอนเซ็ปและสิทธิประโยชน์ที่จะมาพร้อมกับชิ้นงานได้อย่างง่ายดาย
ประเภท: ตลาดดิจิทัลอาร์ตหายาก
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Instagram | Discord | Facebook
10. ตลาด NFT : X2Y2

X2Y2 คือแพลตฟอร์มการซื้อขาย NFT ที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการใช้วิธีแจก Airdrop ให้ผู้ใช้ OpenSea เพื่อดึงดูดให้มาทดลองใช้งานแพลตฟอร์มใหม่ รวมถึงจัดโปรโมชั่นต่างๆ เช่นค่าธรรมเธียม 0% หรือการคืนเงิน (rebate)ให้กับผู้ใช้งานทุกคนอยู่เรื่อยๆ จนเคยทำรายได้ต่อวันแซงหน้า OpenSea มาแล้ว
นอกเหนือไปจากโปรโมชั่นต่างๆ X2Y2 ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น List and Earn ลงขาย NFT ดังเพื่อรับผลตอบแทน, NFT Loan ซึ่งผู้ใช้สามารถ Lock NFT เป็นหลักประกันเพื่อยืม ETH ได้ ไปจนถึง OpenSea Sniper หรือการเปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ NFT บน OpenSea ผ่าน X2Y2 ได้เลยแถมค่าธรรมเนียมยังถูกกว่าการซื้อโดยตรงถึง 40% รวมถึงสามารถ List NFT ขึ้น OpenSea ผ่านทาง X2Y2 ได้อีกด้วย
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
11. ตลาด NFT : Blur

Blur เป็น NFT Marketplace ในรูปแบบ Aggregator หรือตลาดที่รวบรวมและเปรียบเทียบราคาของ NFT ชิ้นเดียวกันบน Marketplace แต่ละแห่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายในจังหวะและราคาที่ดีที่สุด Blur เคลมว่าตัวเองเป็น Marketplace ที่ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อ NFT จากต่างตลาดในคราวเดียวได้อย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุด โดยมีระยะเวลาในการประมวลผลเร็วกว่าคู่แข่งสาย Aggregator ด้วยกันอย่าง Gem Marketplace ถึง 10 เท่า และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าถึง 17%
นอกจากการเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมชิ้นงาน NFT จากตลาดซื้อขายต่างๆ เอาไว้ในที่เดียวแล้ว Blur ยังมาพร้อมระบบ advanced analytics หลังบ้านที่ช่วยวิเคราะห์และแนะแนวการซื้อขาย NFT เพื่อการลงทุนของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังการประกาศออกมาแล้วว่าทุกคนที่ทำการซื้อขาย NFT ผ่าน Blur จะได้รับ Airdrop โทเคน $BLUR กันอย่างทั่วถึงในช่วงต้นปีหน้าอีกด้วย
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
12. ตลาด NFT : Immutable X Marketplace

Immutable X Marketplace คือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน NFT จาก Immutable X เครือข่าย Ethereum Layer-2 เครือข่ายแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์แบบ NFT ให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย ให้บริการได้อย่างน้อย 9,000 รายการต่อวินาที และที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมถูกเพียงแค่ 2% ของมูลค่าธุรกรรม โดยก่อนจะมาเปิดเป็น Marketplace แม้แต่ Opensea ก็ได้ปรับให้แพลตฟอร์มสามารถรองรับการใช้โซลูชัน Layer 2 ของ Immutable X เช่นกัน
ถึงแม้จะมีชิ้นงานหลากหลายประเภทลงขาย แต่หลักๆ แล้วจุดเด่นของ Immutable X Marketplace นั้นจะเป็น NFT ที่เกี่ยวข้องกับ Gamefi อย่างที่ดินและไอเทมจากเกมต่างๆ เช่น Illuvium, Gods Unchained, Guild of Guardians ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะอย่างยิ่งหากผู้ใช้ต้องการซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT จากเกม
ประเภท: ตลาดสายเกม
บล็อกเชน: Immutable x
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
13. ตลาด NFT : ThetaDrop

ThetaDrop แพลตฟอร์มซื้อขาย Non fungible Token จาก Theta Network เครือข่าย Blockchain ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาบริการ Video Streaming แบบกระจายศูนย์ โดย Marketplace นี้ก็โฟกัสไปที่การนำเครือข่าย Theta Network มาสนับสนุนการเก็บสะสมและเพิ่มมูลค่าของ NFT สาย media และ entertainment เช่นกัน
ThetaDrop มาพร้อมกับคอนเซ็ป real-time marketplace ที่นำจุดแข็งด้านสื่อของตัวเองออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการ Live Streaming ระหว่างการประมูลและ NFT drops เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของครีเอเตอร์กับแฟนๆ ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับรายการทีวีและช่องเคเบิลต่างๆ
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Theta
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Facebook
14. ตลาด NFT : AtomicMarket

AtomicMarket หรือก็คือ NFT market smart contract ที่แชร์สภาพคล่องร่วมกัน (shared liquidity) ซึ่งหมายถึงเมื่อมีการ List NFT ไว้ในตลาดหนึ่ง NFT ชิ้นนั้นจะปรากฏอยู่ในตลาดทั้งหมดเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถซื้อได้อย่างสะดวกรวดเร็วจากหลากหลายตลาด ไม่ผูกติดอยู่กับแพลมฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง
AtomicMarket ทำงานอยู่บนเครือข่าย Eosio Blockchain และประกอบด้วย Merketplace ต่างๆ จากหลากหลายเน็ตเวิร์กที่แชร์สภาพคล่องร่วมกันรวมทั้งหมด 21 แห่ง เช่น AtomicHub-WAX, NeftyBlocks, NFTHive, AtomicHub-EOS, ChainChamps ฯลฯ
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: WAX
ช่องทางการติดตาม: Website
15. ตลาด NFT : Element

Element เป็นตลาดซื้อขาย NFT แบบ aggregator เจ้าแรกที่ดำเนินงานแบบ Community Driven ควบคุมด้วย Smart contract ซึ่งมีจุดเด่นในการช่วยประหยัดเงินค่าธรรมเนียมและเวลา เพราะมันรวบรวมและเปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ NFT ได้จากตลาดที่มีสภาพคล่องที่ดีที่สุดและมีต้นทุนการทำธุรกรรมต่ำที่สุด
Element มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ยิ่งซื้อเยอะยิ่งประหยัดค่า Gas สูงสุดถึง 49%, การซื้อขายข้ามตลาดและการรวมสภาพคล่อง, ระบบ Trading Rewards และระบบการจัดอันดับที่อัพเดทแบบเรียลไทม์ โดยปัจจุบันรองรับหลากหลายตลาดชื่อดัง เช่น OpenSea, LooksRare, X2Y2 ฯลฯ
ประเภท: ตลาดรวบรวม
บล็อกเชน: Ethereum, Solana, Polygon, Avalanche
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
16. ตลาด NFT : Objkt

Objkt เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดบน Tezos Chain ที่เน้นความเรียบง่ายและใช้งานได้สะดวกของฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถค้นหา เปรียบราคา และเลือกซื้อและขาย NFT บน Tezos ได้ง่ายขึ้น ผู้ขายสามารถเลือกตั้งราคาขาย เปิดประมูล หรือรอรับ Offer ราคาจากผู้ซื้อก็ได้ โดยสไตล์งานส่วนใหญ่จะเป็นงานศิลปะที่มีรายละเอียดสูงและมีชิ้นเดียวมากกว่าภาพโปรโฟล์ นอกจากนี้ยังเป็นตลาดที่โดดเด่นเรื่องงานภาพถ่ายอีกด้วย
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Tezos
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
17. ตลาด NFT : Solanart

Solanart แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นตลาด NFT แห่งแรกบนเครือข่าย Solana ที่นอกจากศิลปินจะสามารถนำชิ้นงาน NFT มา List เพื่อเปิดขายได้แล้ว ยังมีบริการ Chat on chain เพื่อให้เป็นช่องทางให้ผู้ซื้อกับผู้ขายสามารถติดต่อกันได้โดยตรงอย่างปลอดภัย และเป็นแพลตฟอร์ม Launchpad ที่ช่วยสนับสนุนการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อีกด้วย โดยสไตล์ผลงานจะมีทั้งภาพวาดและภาพกราฟิกชิ้นเดี่ยวๆ และคอลเลกชัน Generative art
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของแพลตฟอร์มนี้คือ Solanart Loans หรือการเปิดให้ยืม SOL จาก liquidity pool ของแพลตฟอร์มเพื่อลงทุนกับการซื้อผลงานคอลเลกชันใหม่ๆ ด้วยการล็อก NFT ที่มีเป็นหลักประกัน โดยผู้ยืมสามารถยืมได้ 40% ของ floor price และต้องทำการจ่ายคืนภายใน 14 วัน
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Solana
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
18. ตลาด NFT : Paras

Paras ตั้งอยู่อยู่บนบล็อกเชน Near Protocol และมีเหรียญ Near เป็นตัวกลางในซื้อขาย จุดเด่นของ Paras ก็มาจากการที่มันอยู่ในเชนใหม่อย่าง Near Protocol ที่มีการประมวลผลในรูปแบบ Proof-of-Stake (PoS) นั่นเอง เพราะระบบ PoS นั้นทำให้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม(ค่าGas) นั้นถูกลงมากเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถรองรับจำนวนการทำธุรกรรมได้ทีละมากๆ อีกด้วย
ผลงานบนแพลตฟอร์มเน้นไปที่การนำเสนอเป็นคอลเลกชันแทนที่จะเป็นภาพงานศิลปะชิ้นเดี่ยวๆ เพื่อสร้างความรู้สึกให้ใกล้เคียงกับการเก็บสะสมการ์ด (Trading cards) นอกจากนี้ปัจจุบันเค้ายังเพิ่งอัพเดทมาเป็น Paras 2.0 ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้เชน Near สามารถเขามาลงขายผลงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ นอกจากนี้ยังยกเลิกการจำกัด ratio ของภาพ พร้อมเปิดรับ NFT ทุกขนาดและรูปแบบอีกด้วย
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: NEAR
ช่องทางการติดตาม: Website | Facebook | Twitter | Instagram l Discord
อ่านเพิ่มเติม: Paras แพลตฟอร์ม NFT Marketplace สไตล์สะสมการ์ด ประมวลผลไวใช้งานง่าย ค่า Gas ถูก
19. ตลาด NFT : Gaia

Gaia คือ ตลาด digital collectible ชั้นนำบน Flow blockchain ซึ้งเป็นเครือข่ายที่นอกจากจะเน้นสร้างประสิทธิภาพในการใช้งานแล้วยังเน้นไปที่การเป็นตัวกลางในการเชื่อมหว่างแบรนด์ชั้นนำระดับโลกต่างๆเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนอีกด้วย ดังที่ได้เคยร่วมงานกับ NBA, Sumsung, Ubisoft, UFC และแบรนด์อื่นๆ มาแล้ว
บนตลาด NFT อย่าง Gaia ก็เช่นกัน โดยนอกจากจะเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเสนอคอลเลกชันของตัวเองเข้ามาพิจารณาเพื่อ List บนแพลตฟอร์มได้แล้ว Gaia ก็ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างเครือข่ายและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างศิลปิน, คอมมูนิตี้, นักสะสม และแบรนด์ต่างๆ ไปในเวลาเดียวกัน
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Flow
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
20. ตลาด NFT : PlayDapp Market

PlayDapp Market มุ่งเน้นไปที่การซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT จากเกม Blockchain based โดยเฉพาะ เพราะมันคือ Marketplace จากแพลตฟอร์ม PlayDapp แพลตฟอร์มรวมเกม Play to earn นอกจากจะซึ่งเปิดให้ผู้เล่นเข้ามาหารายได้เป็นคริปโตจากการเล่นเกมได้แล้ว ยังเปิดให้นักพัฒนา dApp สามารถเข้ามาพัฒนาเกมบนเครือข่ายได้อีกด้วย
สิ่งที่สามารถนำซื้อขายผ่าน PlayDapp Market ก็จะเป็น NFT ตัวละคร ที่ดิน หรือไอเทมต่างๆ จากเกมในเครือ PlayDapp โดยมีเหรียญ PLA เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน
ประเภท: ตลาดสายเกม
บล็อกเชน: Polygon
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
21. ตลาด NFT : Quix

Quix ตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดบน Optimism Chain หรือ blockchain layer 2 บน ethereum ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็วในการทำธุรกรรมซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังประหยัดค่า Gas ได้มากถึง 100 เท่า และยังคงสามารถทำงานร่วมกับ Ethereum ได้เป็นอย่างดีสมฐานะ layer 2
ผลงานในตลาดส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ภาพวาดและงานกราฟฟิคในรูปแบบคอลเลกชันที่หาไม่ได้บนตลาดใหญ่ๆ อย่าง Opensea ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ศิลปินหน้าใหม่สามารถเข้ามาทำการแจ้งเกิดได้ง่ายกว่า
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Optimism
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
22. ตลาด NFT : Zuse Market

Zuse market คือตลาด NFT ตัวท็อปบน Hedera Hashgraph หรือแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ให้บริการ Smart Contract เพื่อสร้าง DApp ที่เน้นสนับสนุนการใช้งานในระดับ Enterprise-grade และชูจุดเด่นที่ความสะดวก สเถียร ค่าธรรมเนียมมีมาตราฐาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ภายในแพลตฟอร์มรองรับรูปแบบของสินทรัพย์หลากหลายและเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามา List และขายชิ้นงานของตัวเองได้แบบ P2P นอกจากนี้ยังให้บริการ Launchpad อีกด้วย โดยคอลเลกชันต่างๆที่เปิดขายผ่าน Zuse market นั้นจะเป็น exclusive collection ทั้งหมด หรือก็ไม่สามารถซื้อได้จากตลาดอื่นๆ นั่นเอง
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Hedera
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord
23. ตลาด NFT : Crypto.com

Crypto.com เป็น NFT Marketplace จากแพลตฟอร์มเทรดคริปโต Crypto.com ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 70 ล้านคน ก่อนจะขยับขยายออกมาทำตลาด NFT ด้วยตัวเองโดยมีเหรียญ CRO ( Crypto.com Coin ) เป็นตัวกลาง ดังนั้นตัวโครงสร้างพื้นฐานของตลาดจึงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
ในส่วนของฟีเจอร์เด่นๆ ที่แตกต่างจากตลาดอื่นก็จะมีฟีเจอร์ digital gallery ที่สามารถจัดแสดงงานที่คุณเป็นเจ้าของได้ นอกจากนี้ Crypto.com ยังเป็นตลาดที่มีการคอลแลบกับแบรนด์ระดับโลกต่างๆ และเปิดขาย NFT รุ่น Exclusive อยู่เป็นประจำ ที่เคยเปิดตัวออกมาแล้วก็อย่างเช่น UFC, Aston Martin F1, Paris Saint-Germain, DeFi The Game, Visa เป็นต้น
ประเภท:ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord | Instagram
24. ตลาด NFT : NFTrade

NFTrade เป็นแพลตฟอร์ม decentralized multi-chain Marketplace ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้าง Communityและประสบการณ์ซื้อขายแลกเปลี่ยนที่สะดวกสบายรองรับหลากหลายเชน เช่น $ETH, $BSC, $AVAX, $MATIC, $MOVR
ดังนั้น NFTrade จึงไม่ใช้แค่ตลาด เป็นเต็มไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เช่น NFT Aggregator, NFT Farming, NFT Launchpad ไปจนถึง Peer-to-peer trading ที่ทำให้ทุกคนสามารถสร้าง ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน และฟาร์ม NFT ข้ามเชนได้อย่างไร้รอยต่อ
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Ethereum, Solana, Polygon, Avalanche
ช่องทางการติดตาม: Website | Twitter | Discord | Instagram
25. ตลาด NFT : Rand Gallery

Rand gallery ถือว่าเป็น Non fungible Marketplace อันดับหนึ่งจากเครือข่าย Algorand หรือ Blockchain แบบ Decentralized ที่ประกาศว่าตัวเองว่าคือ "Blockchain of FutureFi" ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องเรื่องความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย, ความเร็วในการทำธุรกรรม และความปลอดภัยของเครือข่าย โดยมี ALGO เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ดังนั้นประสิทธิภาพในด้านการทำงานจึงไม่น่าเป็นห่วง
ภายในตลาดเน้นไปที่ภาพวาดและคอลเลกชัน Generative art และเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถนำเสนอคอลเลกชันของตัวเองขึ้น List ได้ โดยทางแพลตฟอร์มจะพิจารณาและตอบกลับภายใน 48 ชั่วโมง
ประเภท: ตลาดซื้อขายทั่วไป
บล็อกเชน: Algorand